19 พ.ค. 67 มูลนิธิเป็นหนึ่ง ร่วมกับเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ (พม.) เข้าไปตรวจสอบห้องเช่าในเคหะแห่งหนึ่งย่านคู้บอน กทม. เพื่อช่วยเด็กหญิงวัย 9 ปี โดยมีแม่เด็ก อายุ 28 ปี ให้ความร่วมมือเปิดห้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
เหตุที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบนั้น เนื่องจาก มีผู้ที่พักอาศัยอยู่ที่เดียวกันร้องเรียนว่า เด็กหญิงวัย 9 ขวบ ถูกแม่ทุบตีทำร้ายร่างกาย จนเด็กร้องไห้เป็นประจำ โดยมีหลักฐานเป็นกระดาษซึ่งให้เด็กหญิงเขียนว่าทำไมถึงร้องไห้
โดยเด็กหญิงวัย 9 ขวบ เขียนเหตุผลว่า ร้องไห้เพราะถูกแม่ตี เนื่องจากวางจานแรง และโดนแม่ไล่ออกจากบ้านคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายข้อความ ที่น้องมักจะเขียนกิจวัตรประจำวันของตนเอง ซึ่งมีอยู่ข้อความหนึ่ง ที่ให้น้องเขียนว่า ถ้าพูดอะไรกับแม่และน้าได้น้องอยากจะพูดอะไร ซึ่งน้องได้เขียนว่า "ขอเป็นลูก"พร้อมบอกว่า "หนูทำได้ทุกอย่าง"
ซึ่งผู้ที่ร้องเรียนรู้สึกแปลกใจ ว่าทำไมน้องถึงเขียนแบบนี้ ทั้งที่น้องเองก็เป็นลูกสาวคนโตอยู่แล้ว และผู้ร้องเรียนยังอ้างว่า ตัวน้องเคยเขียนว่าอยากตาย แต่กระดาษใบนี้ถูกน้องฉีกทิ้งไปแล้ว
เจ้าหน้าที่ได้พูดคุยกับแม่ของน้อง อายุ 28 ปี โดยเธอกล่าวว่า มีลูกสาว 2 คน คนเล็กอายุ 1 ขวบ ส่วนคนโตก็คือ "น้องลูกแก้ว"อายุ 9 ขวบ เป็นคนละพ่อ และเธอเลิกกับพ่อของเด็กทั้ง 2 ไปนานแล้ว ส่วนที่ห้องจะมีหลานสาวอายุ 18 ปี มีลูก 2 คน อายุขวบกว่า ๆ อาศัยอยู่ด้วยกัน ที่ผ่านมาไม่เคยให้ลูกอดอาหาร หรือกินนมบูด แต่ที่เด็กผอมแห้งหรือตัวเล็ก เป็นเพราะสรีระของเด็กเอง
ส่วนประเด็นทำร้ายร่างกายลูก ยอมรับว่าเคยตีลูกครั้งหนึ่ง โดยใช้ไม้แขวนเสื้อตีบริเวณขาและก้น เนื่องจากลูกร้องงอแงจะกินข้าวหลายรอบ ทั้งที่ก่อนหน้านี้กินไปแล้ว พอเธอว่าให้รอกินมื้อเย็นพร้อมกับน้อง ๆ ลูกแสดงอาการไม่พอใจกระแทกจานเสียงดัง จึงใช้ไม้แขวนเสื้อตีเป็นการสั่งสอนไม่ให้มีพฤติกรรมแบบนี้อีก ซึ่งหลังจากครั้งนั้นก็ไม่เคยตีลูกอีกเลย
แม่เด็กยังยืนยันว่า ลูกของเธอไม่เคยมีอาการซึมเศร้า เป็นเด็กร่าเริง ส่วนการเขียนโน้ตหรือข้อความต่าง ๆ แม่เด็ก เชื่อว่า คนที่ประสานไปยังมูลนิธิ ฯ เป็นคนบังคับให้น้องเขียน และมักจะให้น้องเขียนอะไรแบบนี้อยู่เป็นประจำ
แม่เด็กยอมรับว่า มีปัญหากับคนที่แจ้งเรื่องไปยังมูลนิธิ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านอยู่ จากปัญหาส่วนตัวในเรื่องของที่อยู่อาศัย เนื่องจากหลานสาวของเธอต้องการหาห้องเช่า คนที่แจ้งเรื่องไปยังมูลนิธิฯ เสนอให้เช่าห้องของตนเอง และมีปัญหากันเรื่องค่าเช่า โดยเธอเป็นตัวกลางไปเคลียร์ให้ จนมีปากเสียงกัน จนมีการแจ้งความและดำเนินคดีกันก่อนหน้านี้
ทีมข่าว PPTV ได้คุยกับ นางสาวกรรภิรมย์ พงศ์ภัทรดรกุล อายุ 24 ปี ผู้ที่แจ้งเรื่องร้องเรียน เธอบอกว่า มักจะสอนหนังสือให้กับเด็ก ๆ ในหอนี้อยู่เป็นประจำ รวมถึงน้องลูกแก้ว ซึ่งเธอมักจะเห็นน้องไม่ค่อยไม่สดใสและจะร้องไห้อยู่เป็นประจำ เลยให้น้องเขียนระบายความในใจเป็นข้อ ๆ ว่า เพราะอะไรถึงร้องไห้
จึงทำให้รู้ว่า ถูกผู้แม่ตี ยืนยันว่าไม่เคยบังคับให้น้องลูกแก้วเขียนข้อความพวกนี้ ทั้งหมดออกมาจากความรู้สึกของน้องเอง ยืนยันว่าน้องลูกแก้วโดนตีมากกว่าหนึ่งครั้งแน่นอน
และยืนยันว่า ที่แจ้งให้ช่วยเหลือเด็ก ไม่เกี่ยวปัญหาส่วนตัวกันเรื่องค่าเช่าห้อง เธอยังบอกอีกว่าส่วนตัวเธอจะมีทุนการศึกษาให้เด็ก ๆ ภายในหอจำนวนเงิน 1,000 บาท เธอเลยบอกกับน้องลูกแก้ว ให้ไปขอผู้เป็นแม่ว่าเธอจะพาไปเปิดบัญชี โดยมีเงื่อนไขคือห้ามตีน้องลูกแก้วอีก แต่ทางผู้เป็นแม่บอกว่าไม่ได้ ยังไงก็ต้องตี
ทีมข่าว PPTV ยังได้ไปพูดคุยกับเพื่อนบ้านคนอื่น ๆ ซึ่งทั้งหมดยอมรับว่า เคยเห็นน้องลูกแก้วเดินร้องไห้ และได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ในห้อง แต่ไม่เคยเห็นแม่ตีน้องลูกแก้วกับตาตัวเอง และส่วนตัวก็เคยเห็นข้อความที่น้องเขียนว่าถูกแม่ตีและอยากกระโดดน้ำตาย และมักจะเห็นน้องไปนั่งหรืออยู่ที่ริมน้ำอยู่เป็นประจำ จึงรู้สึกเป็นห่วงเด็ก
ส่วนอุปนิสัยของแม่เด็ก เพื่อนบ้านหลายคนยืนยันว่าเป็นคนไม่ค่อยสุงสิงกับใคร และเป็นคนที่อารมณ์ร้ายพอตัว หากไม่พอใจใครก็จะด่าทอทันที
ด้าน นางชลิดา พะละมาตย์ หรือ "ต้นอ้อ มูลนิธิเป็นหนึ่ง"ระบุว่า จากการคุยกับน้องลูกแก้ว น้องยืนยันว่า ถูกแม่ทำร้ายร่างกายจริง ซึ่งก็ขัดแย้งกับที่แม่เด็กบอกว่าตีลูกแค่ครั้งเดียว และตามร่างกายน้องก็ยังมีบาดแผล รอยช้ำที่เกิดจากการถูกตี
หลังจากนี้ จะส่งตัวน้องให้ทาง พม. (บ้านพักเด็กราชวิถี) ไปประเมินสภาพจิตใจ เนื่องจากขณะนี้ น้องมีอาการเหม่อลอย และมักจะร้องไห้อยู่ตลอดเวลา และตอนเย็น ๆ จะชอบไปเดินอยู่ริมสระน้ำ และไปนั่งอยู่ริมน้ำอยู่คนเดียว ซึ่งเป็นอาการที่ไม่ปกติ
ส่วนสังคมจะเชื่อใครมากกว่ากันระหว่างเด็กและแม่เด็ก ก็ให้สังคมเป็นคนตัดสินใจด้วยตนเอง