นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศราฐกิจ และธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจสหภาพแรงงาน กรณีศึกษาผู้มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน จำนวน 1,260 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 18-24 เม.ย.ว่า ส่วนใหญ่ถึง 99% มีหนี้สินส่งผลให้ปีนี้มีภาระหนี้ของครัวเรือนเฉลี่ยอยู่ที่ 217,952.59 บาท เพิ่มขึ้น 5.09% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำสถิติสูงสุดในรอบ 14 ปี เป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มาจากการใช้จ่ายประจำวัน มีหนี้บัตรเครดิตและจากที่อยู่อาศัย และมี 31.5% เคยผิดนัดชำระหนี้ เพราะจำนวนหนี้และค่าครองชีพสูงขึ้น ทำให้ได้รายได้ไม่เพียงพอ
“ปัญหาหนี้ครัวเรือน ที่เกิดจากค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ทั้งค่าสินค้าอุปโภค บริโภค และค่าน้ำมัน ส่งผลให้พฤติกรรมการใช้จ่ายลดลง เป็นผลให้เศรษฐกิจภาพรวมขาดกำลังและไม่โดดเด่น ทำให้หนี้ครัวเรือนในปี 65 มีโอกาสสูงสุด 95% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (จีดีพี) ทำให้จีดีพี ปี 65 มีโอกาสโตอยู่ในกรอบ 3-3.5% แต่หากภาครัฐ ไม่มีมาตรการออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ มีโอกาสที่เศรษฐกิจไทย ปีนี้ให้ขยายตัวเหลือเพียง 3% ขณะที่ผู้ประกอบการ จะมีต้นทุนการผลิตสินค้าที่สูงขึ้นและมีโอกาสปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น ส่งผลทำให้ประชาชนชะลอการบริโภค และกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจด้วย”
ส่วนการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ จากการสำรวจพบว่า แรงงานมองว่า ค่าแรงงานในปัจจุบันยังไม่เหมาะสม เนื่องจากราคาสินค้าแพง รายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย อยากให้มีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ให้มีความสอดคล้องกับค่าครองชีพ ซึ่งปัจจุบันอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ประมาณ 4-5% ขณะเดียวกันการปรับค่าแรงขั้นต่ำก็ควรเป็นไปตามไตรภาคีในแต่ละจังหวัด เมื่อค่าแรงขั้นต่ำสูงขึ้น แรงงานก็จะมีอำนาจซื้อมากขึ้นเช่นกัน โดยปัจจุบันค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 336 บาท การที่ลูกจ้างมีการประท้วงขอขึ้นค่าแรงเป็น 492 บาทนั้น มีการปรับขึ้นถึง 10-20% ถือว่า อยู่ในสัดส่วนที่สูงมาก หากมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจำนวนมาก จะเป็นการเร่งทำให้นายจ้างขาดสภาพคล่องทันที จากราคาต้นทุนที่สูงขึ้น ดังนั้น ควรยึดตามความสามารถของนายจ้างมากกว่าคำพูดจาก ทดลองเล่น
สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลมองว่า โครงการคนละครึ่งเฟส5สามารถตอบโจทย์ในเรื่องของการเพิ่มรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้ง่ายและเร็วที่สุด หากรัฐขยายโครงการคนละครึ่งเป็นเฟส5และหากให้วงเงิน1,000-1,500บาท จะช่วยเพิ่มเม็ดเงินของประชาชนในระบบเศรษฐกิจ45,000ล้านบาท เพียงพอกับเม็ดเงินที่สูญเสียไปกับราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และจะสามารถเข้ามาชดเชย ทำให้เศรษฐกิจยังคงเติบโตได้ และศูนย์พยากรณ์ฯยังคงคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจในปีนี้ไว้ที่3.0-3.5%คำพูดจาก รวมสล็อตทดลองเล่น
นอกจากนี้การสำรวจยังพบว่า แรงงานมีความกังวลเรื่องเศรษฐกิจ และราคาสินค้าในปัจจุบันและอนาคตมากที่สุด (เงินเฟ้อ) ส่วนเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 พบว่า แรงงานไม่มีความกังวลมากนัก เนื่องจากขณะนี้มีการผ่อนคลายมาตรการ และจะเริ่มปรับเข้าสู่โรคประจำถิ่น การทำงาน และการท่องเที่ยวจึงเริ่มกลับมามากขึ้น